1.อย่านำเงิ นสำรองออกมาใช้โดยไม่จำเป็น
เงิ นสำรองขั้นต่ำ ที่กำหนดไว้ ตามหลักการแล้วคือ 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน วัตถุประสงค์หลักคือ
เป็นเ งินที่นำมาเยียวย าเรื่องฉุกเฉินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตกงาน ประสบอุบัติเหตุฯลฯ
บางคนขณะที่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิ น การงานหรือธุรกิจ ก็มักจะชะล่าใจ
นำเงิ นสำรองมาใช้เล่น พอถึงคราวเกิดปัญหาจริงๆ ก็ไม่เหลือเงิ นสำรองแล้ว
ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด
2.อย่าลงทุนโดยไม่มีความรู้
คนที่ตั้งหน้าตั้งตา จะหาเงิ นให้ได้ เป็นกอบเป็นกำ โดยใช้ความโลภ เป็นที่ตั้งนั้น
อาจพาตัวเอง ไปยังช่องทางที่หวือหวา โดยไม่มีความรู้ อย่างพวกหุ้นปั่นทั้งหลาย
ช่องทางการลงทุน ที่ไม่ชอบมาพากล แช ร์ลูกโซ่ฯลฯ จำไว้เลยว่า มันไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ
และได้เป็นกอบเป็นกำ ภายในเวลาอันสั้นหรอก ที่สำคัญอย่าลงทุน ในสิ่งที่ตนเองไม่มีความรู้
เพราะนั่นมันคือหายนะ
3.พักไว้ก่อนถ้ามีความคิดจะลงทุนช่วงนี้
ในเวลาที่เศรษฐกิจไม่ดี การค้าขา ยกำไร ย่อมลดลง ผู้ประกอบการต่างคิดหาหนทาง
ที่จะเพิ่มรายได้ เพื่อดึงกำไรกลับมา และหนึ่งในวิธีนั้น คือการลงทุนเพิ่ม
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสาขาใหม่ เพราะต้องการเพิ่มยอดขา ย หรืออะไรก็แล้วแต่
ที่ต้องใช้เงิ นมากๆ ในช่วงนั้นขอบอกว่า พักไว้ก่อน คิดให้รอบคอบก่อน
4.เลี่ยงการสร้างหนี้เพิ่ม
อะไรที่เกินความจำเป็น ก็ควรพักไว้ก่อน แม้คุณจะวางแผน เปลี่ยนรถคันใหม่
หรือซื้อบ้านหลังที่สองไว้ตากอากาศ ก็ต้องคิดให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้
เศรษฐกิจอ่อนแอ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ อย่าเพิ่งสร้างหนี้ใหม่ ให้เป็นภาระจะดีกว่า
5.อย่าค้ำประกันให้ใครในช่วงแบบนี้
ข้อนี้อย่าว่าแต่ในเวลาเศรษฐกิจไม่ดีเลย แม้จะสนิทกันมากแค่ไหน ก็ไม่ควรไปค้ำประกัน
ให้คนอื่น หลายคนต้องเจอบทเรียนชีวิตอันล้ำค่า จากการค้ำประกันให้ผู้อื่น
ดังสุภาษิตที่ว่า “เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งแต่เอากระดูกมาแขวนคอ”
เพราะการค้ำประกัน มันเป็นการสัญญาว่า บุคคลหนึ่งจะชดใช้หนี้แทนลูกหนี้
เมื่อลูกหนี้นั้นไม่ยอมชำระหนี้ หรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทีนี้คนค้ำก็จะรับภาระหนี้ไปเต็มๆ
ขอบคุณที่มา aansanook.com
