
ศิลปะการพูด ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เคยมีมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
อย่าง Bill Gates บอกว่า “การพูด หากคุณพูดเป็น มันจะกลายเป็นทรัพย์สินของคน
แต่หากคุณพูดไม่เป็น มันจะกลายเป็นหนี้สินแน่นอน” ฉะนั้นหลายคนอาจชื่นชม
คนที่พูดเก่ง แต่จะดีกว่า ถ้าหากพูดเก่งด้วย พูดเป็นด้วย รู้ว่าควรจะพูดอะไรแบบไหน
เมื่อไหร่ และที่สำคัญ พูดอย่างมีสเน่ห์ด้วย ไปดูกันเลย
1.คนจะพูดดีได้ต้องเริ่มจากคิดดีก่อน
ไม่มีประโยชน์ ที่เราจะเริ่มต้น จากการคิดร้ าย แม้กับคนที่เราไม่ถูกชะตา ด้วยที่สุด
ก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่เราจะต้องพูดจา ไม่ดีกับเขา การคิดดี ถือเป็นเรื่องพื้นฐาน
ของมนุษย์ เป็นพื้นฐาน ของจิตใจที่ดีงาม ใครก็ตามที่รู้จักคิดดี เขาก็จะเห็นแง่งาม
ของโลก ของชีวิตของตนเอง และของผู้อื่น เมื่อเห็นแง่งาม หรือแง่ดีของสิ่งต่างๆ
เขาก็ย่อมมีทัศนคติที่ดี มีท่าทีที่ดี และเมื่อต้องพูดจาเสวนากัน เขาก็ย่อมพูดจาดี
“พูดดี”ในที่นี้ หมายความว่า พูดเพราะ พูดคำสุภาพ มีน้ำเสียงที่สุภาพ มีหางเสียง
ครับ ค่ะ จ๊ะ จ้ะ เพื่อแสดงความมีมารย าท มีไมตรี จิตไม่พูดคำหย าบ
ไม่ใส่ร้า ย ไม่ตะคอกตะเบ็งใส่กัน ไม่ประชดประชัน ไม่โกหก พกลม
คนจะพูดดีเช่นนี้ได้ จะคิดร้ าย อยู่ในใจไม่ได้แน่นอน เพราะความร้า ยกาจในใจ
จะเผยมาทางคำพูด น้ำเสียงแววตา หรือท่าที ขณะที่พูดได้ จึงจำเป็น
ต้องฝึกตนให้เป็นคนคิดดี
2.พูดถูกกาลเทศะ
ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกนะคะ ที่คนเราจะพูดได้ ต้องมีบ้างบางขณะ ที่เราควรหยุดพูด
เพื่อเป็นผู้ฟัง คนอื่นพูดบ้าง คนบางคน ถูกตั้งข้อสังเกตว่า “ผีเจาะปากมาพูด”
คือได้แต่พูด (พูดๆๆๆ) ฟังไม่เป็น ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นพูด ทำตัวเป็นผู้รู้ไปหมด
ทุกเรื่อง จึงพูดอยู่ตลอดเวลา คนแบบนี้น่ารำคาญ…จริงไหม
อย่าทำตัวน่ารำคาญ ด้วยการพูดจาไม่หยุด ไม่หย่อน ไม่ดูวาระ
และโอกาสคนพูดเป็น จะรู้ว่า โอกาสไหนควรพูด โอกาสไหนควรฟัง
และโอกาสไหนควรวางเฉย หลักการพูด ให้ถูกกาลเทศะ ทำได้ง่ายๆคือ
ดูว่าเราต้องพูด ในหัวข้อไหน เรื่องอะไร พูดที่ไหน ใครฟัง ผู้ฟังกี่คน
ฟังกันในที่เปิดเผย หรือในห้อง จำกัดพูดสั้น หรือพูดย าว
จริงจังหรือกันเอง ใครอ่า น สถานการณ์ออก เตรียมตัวพร้อม
ก็สามารถพูดจาได้น่าจดจำ ตามวาระและโอกาสนั้นๆได้เสมอ
3.พูดมีเนื้อหาสาระ
ห้ามพูดเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าจะคุยกันกับเพื่อนผู้ร่วมงาน พ่อแม่
หรือพูดในที่ประชุม หรือที่สาธารณะ ก็ต้องมีเป้าหมาย
ในการพูดพูดอย่างมีสาระ มีขอบเขต ชัดเจนว่า ต้องการสื่อสาร
เรื่องอะไร หรือต้องการจะบอกกับผู้ฟังว่าอะไร
4.พูดจาให้น่าฟัง
น้ำเสียงที่กังวานแจ่มใส ดังพอประมาณ พูดจาฉะฉาน ชัดเจน จะดึงดูดความสนใจ
จากผู้ฟังได้มาก การพูดในบางครั้ง ต้องพูดปากเปล่า แต่บ่อยครั้ง ก็ต้องพูดผ่าน
ไมโครโฟน หากมีโอกาสฝึกฝน เรื่องการใช้เสียงอย่างเหมาะสม ทั้งแบบปากเปล่า
และผ่านไมโครโฟนได้ ก็ควรทำ เพราะการพูดผ่านไมโครโฟนนั้น
ต้องมีระยะใกล้ไกล ระหว่างปากกับไมโครโฟน ที่พอเหมาะ เสียงจึงจะชัดเจน
ไม่มีเสียงเสียดแทรก จนผู้ฟัง รู้สึกไม่สบายหู หรือรำคาญในการพูดนั้น
ควรมีการเน้นจังหวะ และเว้นจังหวะ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจชวนติดตาม
5.พูดให้เกิดความรู้สึกร่วม
วิธีการง่ายๆคือ สบตากับผู้ฟังอย่างทั่วถึง ตั้งคำถาม ในขณะพูดแล้วค่อยๆอธิบาย
เพื่อนำไปสู่คำตอบ สอบถามผู้ฟังบ้าง ในบางหัวข้อ ที่ง่ายๆ หรือเป็นเรื่องของ
ประสบการณ์ เป็นเรื่องของความคิดเห็น ที่ไม่ใช่เรื่อง ซึ่งเมื่อตอบแล้ว
อาจถูกหรือผิด ทั้งนี้ผู้พูด จำเป็นต้องรู้พื้นภูมิ ของผู้ฟังบ้าง เพื่อพูดในภาษา
ที่เขาเข้าใจง่าย บางครั้งการพูด ด้วยสำเนียงท้องถิ่น ก็ทำให้ผู้ฟัง รู้สึกดี
รู้สึกเป็นกันเอง อย่าพูดไทย ผสมกับภาษาต่างประเทศ โดยไม่อธิบาย
เลือกใช้ภาษาต่างประเทศ เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ที่มา : updatetoday