
การเป็นหนี้ มันทรมาน ดังที่เขาว่ากันนั่นแหละ และการไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
บ่อยครั้ง ที่เราพลาด ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องของการลงทุน แต่ที่หนักคือ การคือหนี้
ที่ฟุ่มเฟือยนี่แหละ เช่นนี้ถือว่า ใช้จ่ายเกินตัว จนกลายเป็นเอาตัวไม่รอด
ผมเองก็เคยพลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน แม้ปัจจุบัน จะรอบคอบมาก
แล้วแต่ที่หนักสุด ก็คงเป็นหนี้ ที่หลงใหลได้ปลื้ม ไปกับพวกบัตรเครดิต
ผมผ่านมามากมายแล้ว เข้าใจดีว่า การเป็นหนี้ มันหน้ามืดตัวมัวแค่ไหน
เป็นภาวะกลัวเสียงโทรศัพท์ กว่าจะผ่านมาได้นี่ ทุกข์ระทมเกินจะบอกใคร
และนี่คือเคล็ดลับที่ว่า ตอนนั้นผมทำอะไร และก้าวผ่านเวลานั้น
มาอย่างไรเอาไว้ พอเป็นแนวทาง ให้กับคนที่ “เป็นหนี้”
ได้ลองไปปรับใช้กัน จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ
1.บันทึกรวบรวมหนี้ที่มี
ก็ได้เวลาแล้ว ที่ต้องมารวบรวมหนี้ว่า เป็นหนี้ที่ไหนบ้าง เท่าไหร่
เป็นได้ยังไง นำมาบันทึก ทำเป็นบัญชีการรวมหนี้
เราอาจจะได้เห็น ตัวเลขที่มันมากขึ้น ก็อย่าไปตกใจไป
เราทำเพื่อให้รู้ว่าหนี้ที่เรามี มันมากน้อยแค่ไหน
และจะจัดการกับหนี้อันไหนก่อน ประโยชน์อีกอย่าง
เราจะได้มานั่งทบทวนว่า เราได้ทำอะไรพลาด
ในชีวิตเกี่ยวกับการจ่ายเ งิน ในอดีต ทั้งนี้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน
ในการวางแผน การใช้จ่ายเ งินในอนาคตของเราเอง
2.ล้างใจก่อนที่จะล้างหนี้
สิ่งที่ต้องทำก่อนคือ ล้างใจให้เราไม่ทุกข์ เพราะยิ่งทุกข์
ก็คิดอะไรไม่ออก ชีวิตแย่ โฟกัสเรื่องใจก่อน ทำใจให้สบาย
ล้างใจให้เป็นสุข เราก็อาจจะใช้วิธี เข้าวัด หรือคุยกับเพื่อนบ้าง
หาที่ปรึกษา ที่คอยรับฟัง เราระบายทุกข์มันออกไป
แล้วมาตั้งหลักจัดการกับหนี้ กลับมาสู้กันใหม่ ด้วยหัวใจที่เข็มแข็ง
3.หนี้ไหนรีไฟแนนท์ได้ควรทำซะ
มีหนี้บางประเภท ทำรีไฟแนนท์ได้ เพื่อยืดระยะเวลาออกไป
ผมมองว่า หากจำเป็นที่จะต้องรวม ให้หนี้มาเหลือเจ้าหนี้คนเดียว
เป็นสิ่งที่ควรทำ ดีกว่าการมีเจ้าหนี้หลายคน เพราะมันมีความ
หลากหลาย เรื่องดอ ก วิธีการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ
ถ้าเราสามารถ ทำให้เจ้าหนี้เหลือเพียง 1-2 ราย
แล้วทีนี้ มันจะง่ายในการคุย การเจรจา และช่วยกันหาวิธีผ่อนชำระหนี้นั้นๆ
4.เรียงรับดับการจ่ายจากดอ กเบี้ยต่ำไปหามาก
ทีนี้เราค่อยๆจัดลำดับความสำคัญของหนี้ หรือเจรจาพูดคุย
กับเจ้าหนี้กับเรา แล้วเรียงลำดับ ตามด อกเบี้ยที่ต้องจ่าย
ให้เรียงจากดอ กเบี้ยต่ำไปหาสูง ทีนี้ก็ให้ดูที่จำนวนเงิ นต้นว่า
เมื่อนำเงิ นต้นมาคูณกับดอ กเบี้ย ที่ต้องจ่ายของแต่ละเดือน
หนี้ก้อนไหนเป็นจำนวนมากสุด เมื่อเรารู้แล้ว
เราก็จะให้ความสำคัญกับหนี้ก้อนนั้นก่อน
5.เจรจาพูดคุยกับเจ้าหนี้
เรียงลำดับจากดอ กเบี้ยสูง ไปหาดอ กเบี้ยต่ำ ทีนี้ก็ได้เวลา
เจรจากับเจ้าหนี้สักที เข้าไปคุยกับเขาเลย
ก่อนที่เขาจะส่งใบทวง มาหาเรา อย่าพาตัวเอง
ไปเข้ามุมอับ หรือหากอยู่ในมุมอับ ก็หาทางเบี่ยงมันออกมาให้ได้
ไม่งั้นแย่แน่ๆเพราะไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหน เขาไม่อย ากได้เงิ นคืนหรอก
ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือการยอมรับ และพูดคุยเจรจา
ผ่อนเท่าที่เราพอทำได้ แสดงให้เห็นถึงความพย าย าม
เราถ้าจำเป็นต้องขา ยบางสิ่ง เพื่อนำมาลดหนี้
แนะนำว่าให้ข ายไปเถอะนะ
6.หยุดสร้างหนี้ใหม่
ระหว่างนี้ห้ามสร้างหนี้ใหม่ หน้าที่อย่างเดียว คือหาเงิ นมาจ่ายหนี้
เก่าที่ทำไว้ให้หมด อย ากให้นึกถึงโอ่ง ถังใส่น้ำประมาณนี้
เพราะหากมันรั่ว เพราะหนี้ใหม่มา อีกเติมน้ำในถังเท่าไหร่
ก็คงไม่มีวันเต็ม ฉะนั้นเรามีหน้าที่ปิดรูรั่ว เพียงจงเตือนตัวเองไว้
ครั้งนี้จะเป็นเป็นหนี้ ครั้งสุดท้ายและเราก็ต้องทำได้
7.ในเมื่อจำเป็นต้องลงทุนต้องเริ่มที่ลงแรง
แลกกับการลงทุนไปก่อน การจะหาเงิ นมันต้องใช้ทุน
แต่หากเราไม่มีทุน ก็ต้องไปกู้เขามา อีกอย่างนี้
เมื่อไหร่หนี้ จะหมดล่ะว่ามั้ย ฉะนั้นลองใช้วิธีลงแรง
แลกทุนอย่าง เช่น ผมใช้วิธีการข ายออนไลน์
แบบ Drop ship คือไปดูสินค้า อันไหนที่มีคนสนใจ
มากๆก็ติดต่อเจ้าของเขานำรูปสินค้า มาโพสข าย
ก่อนอาจได้กำไรไม่มากเท่าไหร่ แต่ทำไงได้ล่ะ
เราไม่มีทุนก็ต้องใช้วิธีการแบบนี้ไปก่อน เ งินน้อยต้องคิดให้มาก
เ งินมากเนี่ยยิ่งต้องคิดให้มากกว่าเดิมอีก จงใช้ความคิด
แรงกายก่อนที่จะใช้เงิ นแก้ปัญหา
8.เพิ่มรายได้ให้ได้มากๆเท่าที่จะทำได้
เพราะวิธีการพูดคุย ในการผ่อนชำระหนี้ มันก็คือส่วนหนึ่ง
ในการปิดรอยรั่ว และยังไม่พอครับ เราต้องหาเงิ นเข้ามา
เพิ่มด้วย ตอนไม่มีหนี้ ชีวิตก็ชิลๆนั่นแหละ
แต่พอเป็นหนี้เท่านั้น แหละศักยภาพ เพิ่มขึ้นเท่าตัว
เลยทำได้ทุกอย่าง ขา ยของตลาด นัดงานออนไลน์
ช่องทางใด ที่ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น รีบวิ่งเข้าไปทำเลยทีเดียว
9.เปลี่ยนพฤติกร รมจากผ่อนจ่ายเป็นหยอดกระปุกได้จึงซื้อ
ลองมาเป็นวิธีการหยอดกระปุก สะสมเ งินแทนดีกว่านะ
อย ากได้อะไร ก็เก็บใส่กระปุกไว้ เขียนไว้เลย
เ งินนี้เก็บเพื่อนบลาๆๆ ได้เ งินครบ ก็ค่อยนำเงิ นออกมาซื้อ
หากสินค้านั้น มันหมด ไม่มีข ายก็ได้เก็บเ งิน ไปด้วย
เพื่อเป็นทุนทำอย่างอื่นไปด้วยไง และหนี้เป็นเรื่อง
ที่เราควรเรียนรู้ตอนเราลำบาก มันจะเป็นเรื่องที่
สร้างความทุกข์ให้กับเรามาก แต่พอเรามีเงิ น
มีกิจการที่ดีขึ้น มันจะเป็นตัวช่วย ในเรื่องการบริหาร
ให้กับเราได้ ยิ่งธุรกิจดีเครดิตดี แหล่งเงิ นทุน
ก็จะยิ่งยินดี ที่จะให้เราเป็นหนี้ในตอนนี้หนี้
ก็คงกลายเป็นเรื่องสบายๆ
10.รัดเข็มขัดใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
เพราะเราน่าจะพอซาบซึ้ง และเข้าใจแล้ว
ใช่หรือไม่ว่าการที่ฟุ่มเฟือย มันทำให้ชีวิตเรา
มันวุ่นวาย ลำบากแค่ไหนแล้ว
ที่ต้องหาเงิ นมาจ่ายหนี้ต่างๆ นานานั้นเป็นภาวะที่เป็นหนี้
จ่ายให้น้อย หาให้มากต้องสะกดคำว่า พอเพียงให้ได้
คือเรียนรู้ประสบการณ์สร้างภูมิต้านทาน จากประสบการณ์
ที่เคยเจอและนำความรู้ มาต่อยอดสิ่งใหม่ๆ
อะไรที่มันไม่จำเป็น ทิ้งๆมันไป รับรองชีวิตเราจะดีขึ้น
ที่มา : taokaemai