
เมื่อสมัยที่คานธี ยังเรียนอยู่ที่อังกฤษ อาจารย์ไม่ชอบคานธี จึงมักจะพูดเสียดสี
ให้เขาอับอายตลอดเวลา เขามักจะโดนอาจารย์บางคนดูถูก เพราะว่าเขาเป็นคนเอเชีย
และยังมีผิวสี จึงทำให้เข้ากับอาจารย์บางคนไม่ค่อยได้
วันหนึ่ง..คานธีไปกินข้าวที่โรงอาหาร และเดินไปเพื่อจะนั่งร่วมโต๊ะกับอาจารย์
แต่อาจารย์กลับเอ่ยขึ้นมาว่า…“คานธีเธอรู้ใช่ไหม ว่าหงส์กับหมากินข้าวด้วยกันไม่ได้น่ะ”
คานธีนิ่งไปพักหนึ่ง และเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงตอบกลับอาจารย์ไปว่า
“ได้ครับ งั้นผมจะบินไปกินที่อื่นก็ได้ครับ”
พร้อมกับถือจานข้าวลุกไปอีกโต๊ะหนึ่ง
อาจารย์โกรธคานธีมาก ที่แอบเปรียบตัวเองเป็นหมา จึงคิดจะหาทางเอาคืน
ในระหว่างที่อยู่ในชั้นเรียน อาจารย์จึงได้ตั้งคำถามกับคานธีต่อหน้าเพื่อนคนอื่น
เพื่อหวังให้คานธีต้องอับอายอาจารย์ถามคานธีว่า “ถ้ามีกล่องอยู่ 2 ใบกล่องหนึ่งใส่ความรู้ไว้
อีกกล่องใส่ความร่ำรวย เป็นเธอจะเลือกกล่องไหนคานธี”
คานธีจึงตอบไปว่า..“ผมเลือกความร่ำรวยครับ” อาจารย์ได้ฟังคำตอบก็ยิ้มเย้ย พร้อบกับพูดว่า..
“ถ้าเป็นอาจารย์ จะเลือกกล่องความรู้นะ”
คานธียังนิ่งอยู่…แล้วก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงตอบกลับไปว่า..
“ใช่ครับ เพราะคนเราก็ต้องอย ากได้ ในสิ่งที่ตัวเองไม่มีอยู่แล้วครับ”
เมื่ออาจารย์ฟังคำตอบ.ก็ยิ่งเพิ่มความโกรธมากกว่าเดิม แต่ก็ได้แค่เก็บไว้ในใจ
วันต่อมาอาจารย์ตรวจข้อสอบ แต่คานธีกลับทำถูกหมดทุกข้อ อาจารย์ไม่รู้จะทำยังไง
จึงได้เขียนใส่กระดาษ คำตอบของคานธีว่า “ไอ้งั่ง”เมื่อคานธีได้รับกระดาษคำตอบคืน
ก็ตกใจกับสิ่งที่อาจารย์ทำ เขานั่งคิดสักพัก แล้วก็เดินไปหาอาจารย์
พร้อมกับบอกว่า… “อาจารย์ครับอาจารย์เซ็นชื่อแล้ว แต่ลืมให้คะแนนผมครับ”
หากเป็นผู้ที่ต้องถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา การตอบโต้ก็ไม่ใช่เรื่องแย่..เสมอไป
แต่เราสามารถ เลือกวิธีที่จะตอบโต้ได้ โดยไม่ต้องใช้กำลัง หรือทำให้เกิดเรื่องใหญ่โต
ใช้ไหวพริบที่ดีตอบโต้กลับ เพื่อให้เขาสำนึกบ้างก็ไม่แย่…นะ ก็เหมือนกับ“คนที่ปาโคลนใส่คนอื่น
มือของเขามักจะเปื้อนก่อนเสมอ”ฉันใดก็ฉันนั้น