
เชื่อว่าหลายๆคน อาจจะเบื่องานประจำ ที่กำลังอยู่อย ากจะลาออกไป ทำธุรกิจของตัวเอง
ซึ่งก็มีอยู่ 2 ขั้นตอน ทีคนส่วนใหญ่ทำกันคือ ลาออกงานเลย แล้วไปสร้างธุรกิจของตัวเอง
และยังไม่ลาออกจากงาน แต่วางแผนไปเรื่อยๆ ในการสร้างธุรกิจ ให้เป็นรูปเป็นร่าง
แล้วค่อยลาออก โดยอันหลังจะเป็นหลักประกันความเสี่ยงได้ดีกว่า เพราะยังมีเงิ นประจำอยู่
วันนี้เราจะนำเสนอ 12 ขั้น ตอน ก้าวจากการเป็นลูกจ้าง สู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ
เพื่อเป็นแนวทางให้กับบรรดาพนักงานประจำ ที่ต้องการอย ากเป็นนายตัวเอง
หรือเจ้าของธุรกิจในอนาคตครับ
1.มองโอกาสของธุรกิจ
ถือว่าสำคัญมาก แม้ว่าเราชอบหรืออย ากจะทำอะไร แต่ถ้าทำไปแล้ว ไม่มีลูกค้า
ไม่มีคนซื้อ ก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนดังนั้น การที่คิดจะทำธุรกิจอะไร ต้องวิเคราะห์ตลาด
และพฤติกร รมผู้บริโภคด้วยว่า ลงทุนวันนี้แล้วพรุ่งนี้ลูกค้า ยังจะซื้อเราอีกไหม .
หรือธุรกิจที่เราชอบในวันนี้อีก 1-2 ปีข้างหน้า ยังจะได้รับความนิยมอยู่หรือไม่
เราต้องมองโอกาสของธุรกิจด้วย
2.กำหนดสิ่งที่อย ากทำ
เมื่อเราอย ากเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องค้นหา หรือถามตัวเองว่า
อย ากทำอะไรหรือชอบอะไรเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเรารักในสิ่งที่อย ากทำด้วยแล้วก็
จะทำให้ธุรกิจที่จะทำประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เพราะเราจะตั้งใจ
ทำอย่างเต็มความสามารถ
3.เริ่มต้นจากธุรกิจขนาดเล็กๆ
เป็นการทดลองการทำธุรกิจว่า จะไปได้หรือไม่ได้ เหมือนเป็นการลองผิดลองถูก
ถ้าเจ๊งก็ไม่ต้องเสียเงิ นงบประมาณ จำนวนมาก แต่ถ้าไปรอดหรือได้รับการตอบรับที่ดี
จากตลาดและลูกค้าก็ค่อยๆขยับขย ายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ที่สำคัญเหมาะสำหรับ
ช่วงที่เรายังทำงานประจำอยู่ ยังปลีกตัวไป ทำเต็มตัวไม่ได้ ต้องทำขนาดเล็กๆไปก่อน
4.สอบถามลูกค้าเพื่อหาไอเดีย
เชื่อมโยงกับข้อ 2 เพราะก่อนจะลงทุนทำธุรกิจอะไร ให้ประสบความสำเร็จ
อย ากแรก ต้องดูเทรนด์ตลาด และความต้องการของผู้บริโภคด้วย อาจทำแบบสอบถาม
หรือพูคุยกับลูกค้า ในพื้นที่นั้นๆ โดยตรงหรือสอบถามทางช่องทางออนไลน์ก็ได้
ว่าลูกค้าชอบสินค้า หรือบริการที่เราอย ากจะทำหรือไม่ เพื่อเป็นการแนวร่วมเดียวกัน
ถ้าสอบถามหลายๆคนบอกว่า ไม่ชอบเราก็ยังสามารถ ปรับเปลี่ยนธุรกิจ
ก่อนที่จะลงทุนจริงๆจังๆได้ทันเวลา
5.วางแผนการตลาดและแผนธุรกิจ
การตลาดที่ได้รับความนิยมในวันนี้ คือการใช้ช่องทางสื่อสาร ผ่านทางออนไลน์
โดยเฉพาะ SocialMedia ต่างๆ เพราะสาสามารถ เจ้าถึงกลุ่มลูกค้า
เป้าหมายได้ดีที่สุด ขณะเดียวกันเราต้องจัดทำแผนธุรกิจ ระบุรายละเอียดต่างๆ
ว่าเป้าหมายของธุรกิจคืออะไร เราต้องทำงานอะไรบ้าง ให้ประสบความสำเร็จ
แผนธุรกิจจะครอบคลุมโครงสร้างส่วนต่างๆของธุรกิจ
6.วางโครงสร้างบริษัท
ในเวลาเดียวกัน ถ้าเราจะเดินหน้าธุรกิจจริงๆ ต้องมองด้วยว่า จะจัดตั้งบริษัท
ในรูปแบบไหน เช่น บริษัทคนเดียวหรือหุ้นส่วน หรือจัดตั้งเป็นห้างหุ้น
ส่วนนิติบุคคลเป็นต้น เพื่อที่จะได้รับการดูแลตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
7.ประเมินธุรกิจและปรับเปลี่ยน
หลังจากที่เราได้ทดลอง เริ่มต้นธุรกิจไปแล้วพอผ่านไปได้ ประมาณเดือนกว่าๆ
ก็ลองมาวิเคราะห์ธุรกิจดูว่า ผลกาตอบรับจากตลาด และลูกค้าเป็นอย่างไร
ยอดขา ยเพิ่มขึ้นทุกวันหรือไม่ หรือคงที่ หรือยอดข ายตก เมื่อเราเห็นภาพ
ก็จะสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขได้ทันท่วงที โดยนำเอาข้อเสนอแนะ
จากลูกค้ามาปรับปรุงให้ตอบโจทย์ลูกค้าจะดีที่สุดครับ
8.ลาออกจากงานประจำ
เมื่อธุรกิจพร้อมแล้ว ให้ลาออกจากงานประจำวัน เพื่อทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่
แต่อย่าลืมว่าในการออกมาทำธุรกิจของตัวเองนั้น ในวันข้างหน้า เราอาจจะต้องได้พบ
เจอกับหัวหน้าเก่าเจ้านายเก่า หรือเพื่อนร่วมงานเก่าๆ ดังนั้นก่อนการลาออก
ต้องบอกเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานให้ดี ไม่บา ดหมางใจกัน เพราะอนาคต
ธุรกิจอาจต้องพึ่งพาช่วยเหลือกัน
9.ตั้งงบประมาณในการทำงาน
ช่วงเวลาที่เราทำงานประจำ อาจจะไม่สามารถจัดสรร เรื่องงบประมาณ
ในการทำธุรกิจได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อเราออกจากงานประจำ มาบริหาร
กิจการของเราอย่างเต็มที่แล้ว อย ากแรกเราต้อง บริหารงบประมาณ
ในการทำธุรกิจแยกออกเป็นแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นการผลิต
การตลาดการจำหน่าย การขนส่งรวมเ งินทุนหมุนเวียนในบริษัทเป็นต้น
10.รวบรวมทีมงาน
มาถึงตรงนี้ถ้าความคิดในการทำธุรกิจ ของเราจะเป็นไปได้มากที่สุด
ผลการตอบรับจากช่วงทดลอง ทำการตลาดได้ รับผลการตอบรับดี
ต่อไปเราต้องคิดว่า ถ้าเราออกจากงาน เพื่อมาทำธุรกิจของเราเต็มเวลา
เราจำเป็นต้องทีมงาน เพื่อการขย ายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นทีมงานการตาด การเงิ นการผลิต การบริการลูกค้าเป็นต้น
11.การหาแหล่งเงิ นทุน
ถ้าเราคิดจะทำธุรกิจขาดเล็ก เราอาจใช้เงิ นเก็บจากการทำงานประจำ มาใช้จ่ายช่วง 1-2 เดือนแรก
ก่อนก็ได้ถ้าหากมีเงิ นเก็บจำนวนมาก แต่ถ้าอย ากทำธุรกิจที่มันใหญ่ขึ้น เพราะมีตลาด
และลูกค้ารองรับอยู่แล้ว ก็อาจจำเป็นต้องหาแหล่งเงิ นทุนที่ปลอดภัย
ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อ จากสถาบันการเ งินต่างๆ รวมถึงแหล่งเงิ นทุนจากญาติพี่น้อง
12.ปรับขนาดธุรกิจตามแผนการตลาด
สุดท้ายคือการทำธุรกิจ ให้เป็นไปตามแผนงาน หรือแผนธุรกิจ ที่เราได้เขียนเอาไว้
ตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าออกจากงานแล้วธุรกิจไปได้สวย แต่ตอนแรกแผนธุรกิจเขียนเล็กๆเรา
ก็ต้องมาปรับขนาดธุรกิจให้เท่ากับแผนการตลาดในปัจจุบัน
เช่น ถ้าสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ เราก็ต้องปรับขนาดธุรกิจ
ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับตลาดต่างประเทศ เช่น อาจต้องเพิ่มทีมงานด้านต่างประเทศโดยเฉพาะ
รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตที่มากขึ้นด้วยทั้งหมด เป็นขั้นตอนในการก้าวไปสู่ในการ
เป็นเจ้าของ กิจการหรือการเป็นนายตัวเอง ในขณะที่เรายังเป็นลูกจ้างอยู่
ซึ่งถือเป็นแนวทาง ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันมาก เพราะการวางแผนเป็นเจ้าของธุรกิจ
ตั้งแต่เรายังทำงานประจำ จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า การลาออกจากงาน
มาเริ่มต้นธุรกิจเลย อย่างน้อยเราก็มีเงิ นทุนหมุนเวียน ในขณะที่เราเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆอยู่
ขอขอบคุณ thaismescenter