
มีคำโบราณเคยกล่าวไว้ว่า “มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน…เหมือนมีสิ่งล้ำค่า”
บ่อยครั้งที่เรามักจะใส่ใจคนนอกบ้าน มากกว่าคนในบ้าน ทั้งให้ความสำคัญ
และใช้เวลาอยู่กับคนนอกบ้าน มากกว่าแต่กับคนในบ้าน กลับ“ละเลย”ความรู้สึกเขาไปซะอย่างงั้น
อาจจะเป็นเพราะ“ความเคยชิน” ที่คิดว่าเจอกันอยู่ทุกวัน เดี๋ยวค่อยดูแล จึงทำให้เรา
เลือกที่จะเมินเฉยต่อคนในบ้าน ไม่ต้องรีบร้อนที่จะทำอะไรให้ท่าน
เพราะกลับมาบ้านก็ยังต้องเจอกันอยู่ แต่คุณกำลัง…ลืมอะไรไปอยู่หรือเปล่า
“พ่อแม่”ไม่ได้มีเวลาอยู่กับเรา หรือรอเราไปได้…ตลอดชีวิต ดังนั้นจงให้“ความสำคัญ”
ท่านเป็นอันดับแรก…ก่อนเสมอ อย่าเอาของโปรดมาให้กิน ในวันที่พ่อแม่กินไม่ได้
อย่าพาไปเที่ยว ในวันที่พ่อแม่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน อย่าขอโทษพ่อแม่
ในวันที่สายเกินไปแล้ว อย่าอย ากจับมือในวันที่พ่อแม่ไม่รู้สึกแล้ว
อย่าบอกรักบอกคิดถึง ในวันที่พ่อแม่ไม่ได้ยินแล้ว
อย่าอย ากกอดพ่อแม่ ในวันที่เหลือเพียงแต่รูปท่านให้กอด
อย่ารอกราบเท้าพ่อแม่ ในวันสุดท้ายของชีวิตท่าน พ่อแม่สามารถรอลูกได้เสมอ
แต่ชีวิตท่านอยู่ไม่ได้ตลอดไป อย่ามองว่าพ่อแม่“เป็นเพียงคนเฝ้าบ้าน”
เมื่อก่อนตอนที่ยังพูด ไม่เป็นใครกันที่เป็นคนสอนให้พูดได้ เมื่อก่อนตอนที่ยังเดินไม่เป็น
ใครกันที่สอนให้เดินได้ เมื่อก่อนตอนที่ยังกินข้าวเองไม่เป็น ใครกันที่ป้อนข้าวป้อนน้ำ
เมื่อก่อนตอนที่อาบน้ำเองไม่เป็น ใครกันที่ล้างให้โดยไม่นึกรังเกียจ
“ชีวิตทุกคนมีค่าเพราะเวลานั้นมีจำกัด” บนโลกใบนี้มีความไม่เที่ยงอยู่มาก
ถ้ารู้ว่าเวลามีไม่มาก ก็จงทำสิ่งดีๆให้กันมากๆอย่าไปทะเลาะหงุดหงิดใส่กัน
หรือมัวแต่มีอคติ เพราะมันเสียเวลาที่มีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์
หากยังมี“โอกาส”ได้ดูแลท่านอยู่ ก็จงรีบทำซะ
ขอขอบคุณ bitcoretech