
เรื่องการ“เป็นหนี้” เราว่าเป็นปัญหาหนักที่สุด สำหรับเรื่องการเงิ นแล้วล่ะ
แล้วยิ่งถ้าใครเป็นหนี้ ชนิดที่แทบจะหมดเนื้อหมดตัวจริงๆ เราก็บอกได้เลยว่า
แก้ปัญหาย ากจริงๆ แต่!!ไม่ใช่ว่า จะแก้ไขไม่ได้เลยนะ สำหรับคนที่เป็นหนี้
อย่างแรกเลย เราว่าเราต้องตั้งสติให้ดีก่อน คิดไว้เสมอว่า การเป็นหนี้
เราไม่ได้ทำร้ ายใคร ทุกปัญหามีทางออกเสมอ แต่ห้ามหันไปหาทางออกง่ายๆ
อย่างหาเงิ นก้อนอื่นมาโปะหนี้เก่า โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ เพราะจะยิ่งทำให้
หนี้เราเพิ่มเร็วหนักกว่าเก่าแน่ๆ สิ่งที่เราควรทำอย่างแรก ก็คือเริ่มไปเจรจา
กับคนที่ให้เรากู้เงิ นจริงๆ แล้วเวลาที่ “เป็นหนี้” อยู่สามารถเดินเข้าไปหาเจ้าหนี้
แล้วขอประนอมหนี้ได้ส่วนหนึ่ง เพราะเจ้าหนี้ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร
หรือว่าบริษัทบัตรเครดิตต่างๆ ก็ตาม เค้าอย ากได้เ งินของเค้าคืนอยู่แล้ว
แม้จะได้ดอ กเบี้ยน้อยลงก็ตาม ดีกว่าปล่อยให้เป็นหนี้เสียไปเลย
ลองเจรจาให้หมด กับเจ้าหนี้ทุกเจ้า ที่เรามีเลย จากนั้นลองแยกหนี้
ดีกับหนี้เล วออกจากกัน เริ่มจัดการหนี้เล ว ที่มีโดยจัดการจากหนี้เล ว
ที่มีต้นทุน หรือดอ กเบี้ยที่สูงที่สุดก่อน ซึ่งเงิ นที่เราจะหามาปิดหนี้
พวกนี้เราว่า เราอาจจะต้องตัดใจข าย “สินทรัพย์” บางอย่างออกมา
เพราะส่วนนึง ที่เราจะเป็นหนี้ เชื่อว่า น่าจะมาจากการ ที่เราเอาเ งินไปซื้อ
สินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ โทรศัพท์มือถือต่างๆ ถ้ามาถึงจุดนึง
ที่รายได้ไม่พอรายจ่ายของดอ กเบี้ยจริงๆ เราอาจจะต้องข าย
เพื่อไปปิดหนี้ก่อน เพื่อให้ภาระด อกเบี้ยลดลง แล้วพอสถานการณ์ดีขึ้น
ค่อยกลับไปซื้อใหม่ก็ยังไม่สาย เผลอๆได้ของรุ่นใหม่กว่าเดิมอีก
ข้อควรระวัง ก็คือส่วนใหญ่ทุกคน จะมีสินทรัพย์อย่างพวกที่อยู่อาศัยแน่ๆ
ถ้าไม่มั่นใจว่า จะสามารถหาเงิ น มาผ่อนจ่ายได้จริงๆหรือเปล่า
ห้ามเอาที่ดิน หรือบ้านไปค้ำ เพื่อเคลียร์หนี้เด็ดขาด เพราะว่า
ถ้าเราเอามาคืนไม่ได้จริงๆ บ้านเราจะโดนยึดเข้าไปอีก
ปัญหาจะยิ่งหนักมากกว่าเดิม ยังไงห้ามเอาบ้านเรา ไปหมุนเป็นเงิ นออกมาเด็ดขาด!
พอเราเริ่มลดภาระเรื่องหนี้ได้ระดับนึง เราเชื่อว่าปัญหา น่าจะเบาขึ้นเยอะเลยทีเดียว
ทีเนี้ยเราก็ต้องมาจัดการตัวเอง ที่เป็นต้นตอปัญหาก่อน เพราะการเป็นหนี้
มันเกิดจากที่เราหาเ งินได้ ไม่เท่ากับรายจ่ายที่จ่ายออก ทำให้เราต้องไป
หยิบยืมเงิ นจากที่อื่น เพื่อให้เพียงพอ กับรายจ่ายที่เรามี
ดังนั้นช่วงที่สถานการณ์ยังไม่ดีนัก อาจจะต้องเหนื่อยขึ้นแน่นอน
ลองหาทางเพิ่มรายได้ง่ายๆ เช่น การทำโอที หรือหางานพาร์ทไทม์
ช่วงเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเพิ่มรายได้ของเรา เราว่าเดือนนึง
ได้เพิ่มมา 10,000-20,000 บาท ก็ช่วงลดปัญหาได้เยอะแล้วนะ
เราเชียร์ให้ทุกคนสู้ๆ เหนื่อยกายดีกว่าเหนื่อยใจ ที่ไม่รู้จะหาเ งิน
ที่ไหนมาจ่ายหนี้แน่ๆล่ะ หลังจากที่ผ่านช่วงชีวิตนี้มาได้
เราเชื่อแบบสุดใจเลยว่า เราจะแกร่งขึ้นอีกเยอะ
เพราะส่วนตัว เราก็เคยเป็นหนี้หลายแสนเหมือนกัน
จากการลงทุน ทำธุรกิจที่ผลลัพธ์ มันไม่เป็นอย่างที่คิด
ถามว่าเครียดมั้ย ตอบเลยว่ามากกกกกก ก็มีช่วงชีวิตที่ลำบาก
ประมาณ 2 ปี กว่าหนี้จะหมด แต่หลังจากที่เราผ่านมาได้
ก็ทำให้เราแกร่งขึ้นจริงๆนะ สู้งานมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น
เห็นค่าของเงิ นมากขึ้น เราเป็นกำลังใจทุกคน
ที่กำลังสู้เพื่อปลดหนี้น้าาา
ขอขอบคุณที่มา wansukth