
เป็นอีกหนึ่งบทความ ที่ให้ข้อคิดดีๆ สำหรับการเอาใจใส่ดูแลของพ่อแม่
มีผลต่อความสำเร็จ ทางการเรียนมากกว่าการเรียนหนังสือ ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงดี
เชื่อว่าพ่อแม่หลายต่อหลายคนเป็นกังวลไม่น้อย เรื่องการพย าย ามสรรหา
โรงเรียนที่ดีให้กับลูกๆของตัวเอง พ่อแม่หลายคนพย าย ามให้ลูกได้เข้าโรงเรียนอินเตอร์
ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีค่าเล่าเรียน ราคาแสนแพง เนื่องจากคัดสรรครูที่มีคุณภาพชั้นดี
หรือมีอุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน หรือไม่ก็พย าย ามให้ลูกกวดวิชา
เพื่อสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนชื่อดังเป็นโรงเรียนเก่าแก่ ที่มีอัตราการแข่งขันสูง
รับเด็กได้จำนวนจำกัด เพราะคิดว่านี่คือการรับประกันความสำเร็จ ในอนาคตของลูก
แต่จากงานวิจัยของมหาวิทย าลัย แห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยทำการทดสอบกับเด็กวัยรุ่น 10,000 กว่าคน จากโรงเรียนประมาณพันแห่งในรัฐต่างๆ
พบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เด็ก ประสบความสำเร็จในการเรียนนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
คุณภาพของโรงเรียน แต่กลับเป็นความเอาใจใส่ดูแล ของพ่อแม่ผู้ปกครองมากกว่า
นักวิจัยพบว่า เด็กนักเรียนวัย 18 ปี ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนธรรมดาที่ไม่ได้คุณภาพ
มาตรฐานเท่าที่ควร แต่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ ให้ความเอาใจใส่ดูแล
ในด้านการเรียนของลูก จะทำคะแนนสอบได้ดีกว่าเด็กนักเรียน
ที่เรียนโรงเรียนดี สภาพแวดล้อมดี แต่พ่อแม่ไม่ได้ใส่ใจ
ในด้านการเรียนของลูก ความใส่ใจของพ่อแม่นั้น นักวิจัยกลุ่มนี้วัด
จากระดับคะแนนความสัมพันธ์ ว่าพ่อแม่ผู้ปกครอ งเชื่อมั่นในลูกของตัวเอง
มากน้อยแค่ไหน พ่อแม่ช่วยตรวจทานเวลา ลูกทำการบ้านให้กำลังใจ
มีการพูดคุย เรื่องกิจก รรมของลูกที่โรงเรียนบ้างไหม และพ่อแม่เข้าไปร่วมกิจกร รม
กับทางโรงเรียนมากน้อยแค่ไหน การที่พ่อแม่มีเวลาเอาใจใส่พูดคุยเรื่องการเรียนกับลูกอย่างสม่ำเสมอ
ยังเป็นการสื่อสัญญา ให้ลูกรับรู้ว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา
โดยปัจจัยต่อการเรียนรู้ จากพ่อแม่นี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อลูกยังอยู่ในระดับประถมศึกษา
ในส่วนของคุณภาพของโรงเรียนนั้น นักวิจัยวัดระดับจากคะแนน ที่พ่อแม่ให้กับคุณครูมาตรฐาน
การเรียนการสอนของโรงเรียน โอกาสของนักเรียนในการทำกิจกรร มนอกห้องเรียน
และกิจก รรมกีฬาการสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง และโรงเรียน ไม่มีปัญหาเรื่องเด็กเกเรเป็นต้น
นักวิจัยกลุ่มนี้ ทำการติดตามผลการเรียนของเด็กแต่ละคนเป็นระยะย าว
โดยวัดคะแนนสอบ ในสี่วิชาคือคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ การอ่ านวิทย าศาสตร์
และประวัติศาสตร์พวกเขา พบว่าปัจจัยจากโรงเรียนและปัจจัยจากพ่อแม่
มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพ ในการเรียนของเด็ก แต่เห็นได้ชัดว่า
การมีส่วนร่วมของพ่อแม่ผู้ปกครองนั้น สำคัญกว่าและนำไปสู่การประสบความสำเร็จในการเรียนได้มากกว่า
ชื่อเสียงของโรงเรียน“การวิจัยของเรา ชี้ให้เห็นว่าพ่อแม่ควรตระหนัก
ในความสำคัญของตัวเองให้มากขึ้น ว่าพ่อแม่สามารถ ช่วยให้ผลการเรียนของลูกดีขึ้นได้
และควรเอาใจใส่ ให้เวลากับลูกๆ ด้วยการหมั่นตรวจสอบการบ้านของลูก เข้าร่วมกิจกร รมของโรงเรียน
และให้ความสนใจพูดคุยกับลูกเรื่องการเรียนอย่างสม่ำเสมอ นั่นคือให้ความสำคัญกับบทบาท
หน้าที่ของพ่อแม่ มากกว่าการลงทุนลงแรงในการพย าย าม
ให้ลูกได้เข้าโรงเรียนชั้นดี”
ขอบคุณ108resources